เมื่อมีการเขียน การจัดลำดับจุดประสงค์ และการสร้างแบบทดสอบแล้ว
ผู้ออกแบบการเรียนการสอนก็พร้อมที่จะพัฒนากลยุทธ์เพื่อการออกแบบสภาวการณ์ของการเรียนรู้ต่างๆ
ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จตามจุดประสงค์ ไม่ว่าการเรียนการสอนจะเป็นรูปแบบใด
ก็จะมีชุดของสภาวการณ์โดยทั่วๆ ไปที่ใช้กับทุกเหตุการณ์การเรียนรู้ ไดอาแกรมของซีลส์และคลาสโกว์
(Sells and
Glasgow,1990:161) ดังภาพที่ 6.1 ได้แสดงให้เห็นถึง
สภาวการณ์การเรียนการสอนพื้นฐานของการเรียนการสอนปกติ
สภาวการณ์เดียวกันนี้จะรวมอยู่ในการเรียนการสอนทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นการเรียนด้วยตนเองหรือการเรียนเป็นกลุ่ม
และไม่ว่าจะใช้สื่อหรือวิธีการเรียนการสอนใด
เช่นการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ภาพยนตร์ สถานการณ์จำลอง ฯลฯ
👉บทนำ (introduction) จะช่วยนำความตั้งใจของผู้เรียนไปสู่ภาระงานการเรียนรู้
(Learningtask) จูงใจผู้เรียนด้วยการอธิบายประโยชน์ของการประสบความสำเร็จตามจุดประสงค์
และโยงความสัมพันธ์ของการเรียนรู้ใหม่กับการเรียนรู้เดิมที่มีมาก่อน
👉การนำเสนอ (Presentation) เป็นการนำเสนอสารสนเทศ
ข้อความจริง มโนทัศน์ หลักการหรือวิธีการให้กับผู้เรียน ข้อกำหนดของการนำเสนอจะหลากหลายไปตามแบบของการเรียนรู้ที่จะให้ประสบความสำเร็จ
และขึ้นอยู่กับพฤติกรรมแรกเข้าเรียนกรือพฤติกรรมที่แสดงว่ามีความพร้อมถึงระดับที่จะรับการสอน
(entry-leve dehavior)
👉การทดสอบตามเกณฑ์
(Criterion test) เป็นการวัดความสำเร็จของผู้เรียนตามจุดประสงค์ปลายทาง
(terminal objective)
👉การปฏิบัติตามเกณฑ์
(Criterion practice) เกิดขึ้นในสถานการณ์เช่นเดียวกับการทดสอบปลายภาค(การสอบหนสุดท้าย)
โดยมีจุดประสงค์เพื่อการตัดสินใจผู้เรียนว่ามีความพร้อมที่จะสอบปลายภาคหรือมีความจำเป็นต้องเรียนซ่อมเสริม
👉 การปฏิบัติในระหว่างเรียน
(Transitional practice)
เป็นการออกแบบให้ผู้เรียนให้สร้างสะพานข้ามช่องว่าระหว่างพฤติกรรมที่แสดงว่ามีความพร้อมถึงระดับที่จะรับการสอนกับพฤติกรรมที่กำหนดโดยจุดประสงค์ปลายทาง
สิ่งสำคัญที่ควรจดจำเกี่ยวกับการปฏิบัติในระหว่างเรียน คือ
เป็นการเตรียมตัวผู้เรียนเพื่อการแสดงออกซึ่งการปฏิบัติที่เป็นไปตามเกณฑ์
👉การแนะนำ (Guidance) เป็นการฝึกที่ฉับพลัน
ที่ช่วยให้ผู้เรียนแสดงออกอย่างถูกต้องในช่วงต้นของการปฏิบัติพบว่าจะมีการช่วยเหลือมากและจะค่อยๆลดลงการช่วยเหลือจะอยู่ในช่วงปฏิบัติในระหว่างเรียนเท่านั้น
ส่วนในช่วงของการปฏิบัติตามเกณฑ์ไม่ต้องช่วย
👉 การให้ข้อมูลป้อนกลับ
เป็นส่วนหนึ่งของการบูรณาการการปฏิบัติ เพื่อที่จะบอกกับผู้เรียนว่า
ปฏิบัติถูกต้องหรือปฏิบัติไม่ถูกต้อง และจะปรับปรุงการปฏิบัตินั้นอย่างไร
การปฏิบัติแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีข้อมูลป้อนกลับไม่เป็นการเพียงสำหรับการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ
อ้างอิง
ผศ.ดร.พิจิตรา ธงพานิช.วิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน.นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์, 2560.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น