แนวทางการวางแผนการสอน
การวางแผนการสอนสามารถกระทำได้ 2
แนวทางคือ การวางแผนระยะยาว และการวางแผนระยะสั้น
1. การวางแผนระยะยาว หมายถึง
การวางการสอนที่ยึดหน่วยการสอนซึ่งครอบคลุมเนื้อหาสาระค่อนข้างกว้าง
ต้องใช้เวลาในการสอนเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน เป็นภาคเรียนและเป็นปี
โดยการทำเป็นโครงการสอน ซึ่งเรียกตามหลักสูตรเก่าหรือหลักสูตรใหม่
เรียกว่ากำหนดการสอนนั่นเอง
2. การวางแผนระยะสั้น หมายถึง
การวางแผนการสอนของบทเรียนแต่ละเรื่องให้เป็นไปตามความมุ่งหมายที่กำหนดไว้
ผู้สอนที่ดีจำเป็นต้องมีแผนล่วงหน้าในการสอนทุกเรื่อง
การวางแผนการสอนของผู้สอนอาจทำในรูปแบบต่างๆกัน และอาจเรียกว่า
บันทึกการสอนตามหลักสูตรเก่า หรือแผนการสอน แต่ในปัจจุบันสถานศึกษาทุกแห่งยังคงใช้คำว่าแผนการสอน
ให้ใช้คำว่าแผนการเรียนรู้หรือแผนการจัดการเรียนรู้แทน
ซึ่งสถานศึกษาบางแห่งก็ยังคงใช้คำว่าแผนการสอนอยู่
เพราะสร้างความเข้าใจได้ง่ายเป็นแผนที่ครูเป็นผู้จัดทำออกแบบและใช้ในการเรียนการสอนหรือการจัดการเรียนรู้
ความหมายของกำหนดการสอน
การกำหนดการสอนเป็นการเตรียมการสอนล่วงหน้าของผู้สอนในระยะยาว
สำหรับวิชาใดวิชาหนึ่งโดยกำหนดเนื้อหาสาระที่จะต้องดำเนินการสอนในระยะเวลาต่างๆ
เช่น การกำหนดการสอนตลอดทั้งปี ตลอดเทอม และตลอดสัปดาห์ ดังนั้น
การกำหนดการสอนซึ่งอาจแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ
1. กำหนดการสอนรายปี
2. กำหนดการสอนรายภาค
3. กำหนดการสอนรายสัปดาห์
การกำหนดการสอนต้องคำนึงถึงกำหนดวันปิดและเปิดภาคเรียน
วันหยุดวันสำคัญต่างๆ การหยุดเรียนในวันที่มีกิจกรรมพิเศษ
ตลอดจนการกำหนดวันสอบย่อย สอบปลายเทอม การกำหนดการสอนเปรียบเสมือนการกำหนดตารางเวลาการดำเนินการสอนของผู้สอน
การกำหนดเวลาและเนื้อหาสาระที่สัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม
โดยกำหนดเรื่องใดตอนใดต้องสอนก่อนหลังใช้เวลาแต่ละเรื่องมากน้อยเท่าใด
ซึ่งจะช่วยให้ผู้สอนสอนทำตามกำหนดที่ต้องการ
การกำหนดการสอนนี้จะทำแบบรายปี
รายภาค รายสัปดาห์ ก็สามารถทำร่วมกันได้โดยจะเป็นรูปแบบอย่างไรก็ได้ตามความเหมาะสมและผู้สอนเห็นสมควร
หลักการทำกำหนดการสอน
ผู้สอนควรทำแผนการสอนของกรมวิชาการ
หรือแผนแม่บทกระทรวงศึกษาธิการซึ่งเขียนไว้เขียนย่อๆ หรือคร่าวๆ
มาพิจารณาหัวข้อเป็นหัวข้อย่อย บางหน่วยต้องเพิ่มเติมต้องนำไปทำแผนการสอนอย่างละเอียดอีกครั้ง
ดังนั้น
การทำกำหนดการสอนก็เพื่อให้ผู้สอนกำหนดแนวทางในการสอนตลอดปีหรือสอนตลอดภาคการเรียนว่า
จะสอนอย่างไรให้เนื้อหาต่อเวลาในการสอนสัมพันธ์กันการทำกำหนดการสอนสามารถทำได้โดย
1.
ผู้สอนที่สอนในระดับเดียวกันมาร่วมกันพิจารณาด้วยกัน
2. ช่วยกันสำรวจจำนวนคาบที่จะสอนในแต่ละหน่วยว่าเหมาะสมหรือไม่
3.
เริ่มหัวข้อแต่ละหัวข้อย่อยมากำหนดในการกำหนดการสอนโดยให้สัมพันธ์กับเวลาหรือจำนวนคาบที่จะใช้สอนโดยพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
4.
พิจารณาจำนวนคาบเวลาในแต่ละสัปดาห์ของ แต่ละวิชาให้สัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างเวลาเรียนกับเนื้อหาแต่ละหัวข้อ
ตัวอย่างการกำหนดการสอน
กำหนดการสอนกลุ่มสาระภาไทย
ช่วงชั้นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2559
สัปดาห์ที่
วัน เดือน ปี
|
เรื่อง
|
จำนวนคาบ
|
1
19 พ.ค. 59
|
ปฐมนิเทศ
|
1
|
2-3
22-26
พ.ค. 59
|
พ่อแม่รังแกฉัน กลอนสุภาพ
การอ่านออกเสียงร้อยกรอง การถอดคำประพันธ์
|
5
|
3
29-30 พ.ค. 59
|
การเขียนย่อความ
|
2
|
3-4
31
พ.ค. 59
|
เครื่องหมายวรรคตอน
|
2
|
4
1 มิ.ย. 59
|
คำอุทาน
|
1
|
4-6
2-7
มิ.ย. 59
|
พระอภัยมณี กลอนสุนทรภู่
|
6
|
6
12-14 มิ.ย. 59
|
การแต่งกลอนสุภาพ
|
3
|
7
17-20
มิ.ย. 59
|
คำราชาศัพท์
|
4
|
8
21-22 มิ.ย. 59
|
คำนาม
|
2
|
8-9
23-30
มิ.ย. 59
|
นิทานเทียบสุภาษิต โครงสี่สุภาพ
การเล่านิทาน สำนวน คำพังเพย สุภาษิต
|
6
|
9
3-7 ก.ค. 59
|
สอบกลางภาคเรียนที่ 2/2559
|
-
|
10
12-13
ก.ค. 59
|
การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว
|
2
|
11
14-17 ก.ค. 59
|
คำสรรพนาม
|
2
|
11-12
18-19
ก.ค. 59
|
คำกริยา
|
2
|
12-13
20-28 ก.ค. 59
|
ข้อคิดเรื่องการบวชการแสดงความคิดเห็น
|
4
|
13
1-3
ส.ค. 59
|
การเขียนจดหมายส่วนตัว
|
3
|
14
4-7 ส.ค. 59
|
คำวิเศษณ์
|
2
|
14-15
8-16
ส.ค. 59
|
คนดีที่ไม่รู้จักสิ้นสูญ
การเล่าเรื่อง การเขียนย่อความ
|
6
|
16
17-18 ส.ค. 59
|
คำบุพบท
|
2
|
16-17
21-24
ส.ค. 59
|
ตาลโตนด การเขียนคำขวัญ
|
4
|
17
25-28 ส.ค. 59
|
คำสันธาน
|
2
|
18
29
ส.ค. 59
|
บทเสภาสามัคคีเสวก กลอนเสภา
|
4
|
19
4-5 ก.ย. 59
|
ทะเลบ้า อุปมาโวหาร การเล่าประสบการณ์
|
2
|
19-20
11-15
ก.ย. 59
|
สอบปลายภาคเรียนที่ 2/2559
|
-
|
ประโยชน์ของการกำหนดการสอน
การทำการสอนมีประโยชน์
ดังนี้
1. ใช้เป็นแนวทางในการทำแผนการสอนเพื่อใช้สอนได้สะดวก
ผู้สอนสามารถเข้าใจและมองเห็นงานของตนได้ล่วงหน้าชัดเจน สามารถพิจารณาปรับปรุงให้เหมาะสมอยู่เสมอในการคิดวางแผนล่วงหน้า
ทำให้การสอนของผู้สอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นไปอย่างได้ผล
2. ช่วยให้การสอนเป็นไปตามหลักสูตร
เหมาะสมกับผู้เรียนและสอดคล้องกับภาพแวดล้อมและชุมชนเสมอ
3. ทำให้การเปลี่ยนแปลงผู้สอนใหม่
การรับงานของผู้สอนใหม่ การประสานสัมพันธ์ระหว่างผู้ช่วยสอนกับผู้สอน
การจัดการผู้สอนแทน ฯลฯ เป็นไปด้วยดีไม่มีกระทบกระเทือนต่อผู้เรียนเกินไป
4. ช่วยให้ผู้บริหาร
ผู้นิเทศ รู้ลู่ทางที่จะแนะนำ ตลอดจนให้ความร่วมมือสนับสนุนด้วยประการต่างๆ
5. ทำให้ประสิทธิผลสะดวก
เป็นไปตามจุดมุ่งหมาย หรือจุดปรสงค์ที่กำหนดไว้
ความหมายของแผนการสอน
แผนการสอนหรือในปัจจุบันใช้คำว่าแผนการจัดการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร
ซึ่งหมายถึง แนวทางในการสอนที่กระทรวงศึกษาธิการจัดทำขึ้นให้ผู้สอนได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้
เพื่อนำผู้เรียนไปสู่จุดหมายของการศึกษา ครูหรือผู้สอนอาจต้องปรับปรุงแผนการสอน
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความต้องการของท้องถิ่นได้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
กิจกรรมการเรียนการสอน สื่อการสอนและการประเมินผล ทั้งนี้โดยความคิดรวบยอด
จุดประสงค์การเรียนรู้หรือผลลัพธ์การเรียนรู้ หรือผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
และจุดมุ่งหมายของหลักสูตรเป็นหลัก ดังนั้นในการทำแผนการสอน
หรือในการปรับปรุงการสอนเพื่อให้เกิดการสอนที่ดี ผู้สอนจะต้องมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี
ในหลายๆด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ ด้านเทคนิควิธีการ ตลอดจนการนำสื่อมาใช้ เป็นต้น
ข้อควรคำนึงในการทำแผนการสอน
การทำแผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้ที่ดีนั้น
ผู้สอนจะต้องเตรียมการล่วงหน้าโดยต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. การศึกษาหลักสูตร
คู่มือครู หรือเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ผู้สอนจะต้องศึกษาจุดมุ่งหมายของหลักสูตรให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
ตลอดจนศึกษารายละเอียดของเนื้อหาที่หลักสูตรกำหนดก่อนที่จะลงมือทำแผนการสอน
2. ความมุ่งหมายของสาระที่สอน
ต้องให้ครอบคลุมความมุ่งหมายของการศึกษาทั้ง 3 ด้าน ได้แก่
ด้านความรู้ ด้านเจตคติและด้านทักษะ
ผู้สอนจะต้องทำความเข้าใจกับความมุ่งหมายเหล่านี้ให้ชัดเจน
สามารถกำหนดผลที่คาดว่าจะได้รับเมื่อมีการเรียนการสอนเกิดขึ้น
3. กำหนดขอบเขตของเนื้อหา
บทเรียนในกลุ่มสาระต่างๆที่จะสอนว่าจะให้มีขอบข่ายกว้างขวางตลอดจนความสามารถของผู้เรียนเป็นส่วนประกอบ
4.
ทำความเข้าใจเนื้อหาที่สอนอย่างแจ่มแจ้ง ถูกต้อง ชัดเจน รวมทั้งการหาความรู้เพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้อง
5. พิจารณาเลือกวิธีสอนที่เหมาะสมกับเนื้อหาวิชา
วัยวุฒิภาวะของผู้เรียนและควรให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับที่จะสอนเรื่องนั้นๆด้วย
6. พิจารณาเลือกสื่อการเรียนการสอให้เหมาะสมกับวิธีที่การสอน
7.
กำหนดกิจกรรมต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่จะนำไปสู่การปฏิบัติที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงแก่ผู้เรียน
8. ดำเนินการวัดและประเมินผลทุกครั้งที่ทำการสอน
ด้วยวิธีต่างๆที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่กำหนดไว้
ลักษณะของแผนการสอนที่ดี
1.มีความเหมาะสม
สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของหลักสูตรสถานศึกษาตลอดจนปรัชญาของโรงเรียนด้วย
2. พิจารณากำหนดจุดประสงค์ให้สอดคล้องเหมาะสมกับผู้เรียนและท้องถิ่น
3. มีการจัดเนื้อหาสาระให้เหมาะสมกับเวลา
สภาพความต้องการและความเป็นจริงของท้องถิ่นเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจและให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียน
4. มีการจัดลำดับหัวข้อรายละเอียดของเนื้อหาแต่ละตอนให้กลมกลืนกัน
พร้อมทั้งสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์ใหม่และประสบการณ์เก่าให้สอดคล้องสัมพันธ์กันโดยตลอด
5. ควรมีการกำหนดกิจกรรม
และประสบการณ์คำนึงถึงวัยผู้เรียน
สภาพแวดล้อมกาลเวลาความสนใจของผู้เรียนรวมทั้งการใช้แหล่งวิทยาการในท้องถิ่นให้เป็นประโยชน์แก่การเรียนการสอนได้อย่างคุ้มค่า
องค์ประกอบของแผนการสอน
แผนการสอนโดยทั่วไป
มีองค์ประกอบดังนี้
1.
กลุ่มสาระวิชาและเรื่องที่จะสอน
2.
หัวเรื่อง
3.
ความคิดรวบยอดหรือสาระสำคัญ
4.
จุดประสงค์หรือผลลัพธ์การเรียนรู้ หรือผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
5.
เนื้อหาสาระการเรียนรู้
6.
กิจกรรมการเรียนการสอน
7.
สื่อการเรียนการสอน
8.
ประเมินผล
9.
หมายเหตุ
การปรับแผนหรือแผนการเรียนรู้โดยทั่วไปที่ทางกระทรวงศึกษาธิการ
หรือกรมวิชาการหรือกรมสำนักพิมพ์ต่างๆจัดทำขึ้นนั้น
เป็นแผนการสอนหรือแผนการเรียนรู้กลางๆที่เป็นแนวทางให้ผู้สอนได้นำไปใช้เหมือนกันทั้งประเทศ
ดังนั้นเมื่อจะนำมาใช้จริงๆในห้องเรียนผู้สอนจะต้องปรับแผนนั้นๆเสียก่อน
โดยอาจเพิ่มหรือลด ให้สอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของท้องถิ่น
โดยผู้สอนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันทำขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับวัยความต้องการและสภาพแวดล้อมของผู้เรียนแผนการสอนที่ปรับแล้วดังกล่าว
จึงเป็นแผนการสอนที่เหมาะสม ที่ผู้สอนสามารถนำไปใช้สอนได้จริงๆ
ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการปรับแผนการสอนหรือแผนการเรียนรู้ในที่นี้หมายถึง
การที่ผูสอนนำแผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้แกนกลางที่มีการจัดทำไว้แล้วมาตีความ
ขยาย ลด เพิ่ม หรือดัดแลงปรับปรุงให้เหมาะสม
การปรับแผนการสอนหรือแผนการเรียนรู้ตามองค์ประกอบต่างๆในข้างต้น
สามารถปรับได้ตามขอบเขตของการปรับแผนการสอนหรือแผนการเรียนรู้ดังนี้
1. จุดประสงค์หรือแผนการเรียนรู้ ผู้ปรับแผนการสอนจะต้องปรับจุดประสงค์บางเรื่องให้เป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่สามารถประเมินผลหรือวัดได้
โดยคำนึงถึงจุดประสงค์ทั่วไปที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
2. เนื้อหา
เนื้อหาสาระในแผนการสอนของกรมวิชาการ
กระทรวงศึกษาธิการนั้นได้กำหนดเนื้อหาไว้เป็นเพียงหัวข้อหยาบๆ
หรือเป็นเพียงเค้าโครงเท่านั้น ในบางหน่วยอาจจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมไว้ในหลักสูตร
เพื่อให้สะดวกต่อการจัดการเรียนการสอน และให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เนื้อหาที่ต้อเนื่องกัน
ดังนั้นในการปรับเนื้อหาจึงสามารถทำได้ดังนี้
2.1 ปรับส่วนของเนื้อหาให้เหมาะสมกับวัยและระดับชั้นของผู้เรียน
โดยนำเนื้อหาที่เป็นหัวข้อ หรือที่เป็นเค้าโครงนั้นทำให้ละเอียดชัดเจนขึ้น
2.2 ปรับส่วนของเนื้อหาต่างๆให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น
โดยการนำเนื้อหามาพิจารณาและปรับให้เหมาะสมกับสภาพความต้องการของท้องถิ่น
2.3 จัดเรียงลำดับหมวดหมู่ของเนื้อหาเสียใหม่โดยการนำเนื้อหาที่กำหนดได้มาจัดเป็นหมวดเป็นหมู่
เป็นพวกเป็นกลุ่มหรือบูรราการเข้าด้วยกันเพื่อสะดวกแก่การสอน
3. กิจกรรมการเรียนการสอน ในแผนการสอนได้กำหนดกิจกรรมเสนอแนะไว้มากมายเพื่อเป็นแนวทางในการสอน
และช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ตามจุดประสงค์หรือมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดไว้และเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับความคิดรวบยอดในแผนการสอนบางหน่วย
ผู้สอนอาจจะดัดแปลงหรือปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบทเรียนได้
โดยต้องคำนึงว่ากิจกรรมการเรียนการสอนนั้นๆ ต้องเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์
มุ่งฝึกปฏิบัติและฝึกทักษะในการแก้ปัญหาและสามารถช่วยให้ผู้เรียนผ่านจุดประสงค์ของการเรียนได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ
4. สื่อการเรียนการสอน ที่กำหนดไว้ในแผนการสอนประกอบไปด้วยของจริง
ของจำลอง วัสดุ อุปกรณ์ แผนภูมิ แผ่นภาพ และอื่นๆซึ่งผู้สอนจะปรับเปลี่ยนเป็นสื่อการเรียนการสอนประเภทอื่นๆที่หาได้ในท้องถิ่นมาแทนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และสนุกสนานในบทเรียนและอยากจะเข้าร่วมในกิจกรรมมากขึ้น
5. การประเมินผล ในแผนการสอนกลางของกรมวิชาการ
กระทรวงศึกษาธิการนั้นได้กำหนดวิธีการประเมินผลไว้ให้ผู้สอนได้เลือกใช้หลายวิธี
ซึ่งผู้สอนสามารถเลือกและแนะนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับเนื้อหา บทเรียน วัย
วุฒิภาวะและความสามารถของผู้เรียน ตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้
รูปแบบของแผนการสอน
รูปแบบของแผนการสอนสามารถจัดกลุ่มตามลักษณะต่างๆ
ได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
1.รูปแบบของแผนการสอนตามลักษณะการเขียน แบ่งได้ 2 รูปแบบ
คือ
1.1 แบบเรียงหัวข้อ
เป็นแผนการสอนที่เสนอแผนโดยเขียนเรียงลำดับตามหัวข้อที่กำหนดไว้ก่อนหลัง
โดยไม่ต้องตีตาราง เขียนได้ง่าย กระชับ แต่มีข้อจำกัด
คือยากต่อความต้องการดูความสอดคล้องสัมพันธ์แต่ละหัวข้อเพราะเขียนอยู่คนละหน้า
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแผนการสอนรูปแบบเรียงหัวข้อนี้จะมีความยาวประมาณ 2 หน้ากระดาษ โดยเขียนเรียงตามหัวข้อต่อไปนี้
1.1.1 ชื่อวิชาและระดับชั้น
1.1.2 ชื่อหน่วย
เรื่องที่จะสอน และเวลาที่สอนเป็นคาบหรือชั่วโมง
1.1.3 ชื่อหัวข้อเรื่อง
1.1.4 ความคิดรวบยอด
1.1.5 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1.1.6 กิจกรรมการเรียนการสอน
1.1.7 สื่อการเรียนการสอน
1.1.8 การประเมิน
1.1.9 หมายเหตุ
ตัวอย่างแผนการสอนแบบเรียงหัวข้อ
แผนการสอน
วิชา............................
ชั้น...............................
หน่วยที่...........................เรื่อง.................................................เวลา.............................คาบ/ชั่วโมง
หัวเรื่อง..................................................................................................................................
ความคิดรวบยอด......................................................................................................................................................................................................................................................................
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
.............................................................................................................................................................................................................................................................................
เนื้อหา
..............................................................................................................................................................................................................................................................................
กิจกรรมการเรียนการสอน
.................................................................................................................................................................................................................................................................................
สื่อการเรียนการสอน
.........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ประเมินผล
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
หมายเหตุ
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
|
1.2 แบบกึ่งหัวข้อกึ่งตาราง
แผนการสอนรูปแบบนี้บางครั้งนิยมเรียกสั้นๆว่า แผนการสอนแบบกึ่งตาราง
เป็นแผนการสอนที่เสนอข้อความตามหัวข้อส่วนหนึ่ง
และรายละเอียดลงในตารางอีกส่วนหนึ่ง และรายละเอียดลงในตารางอีกส่วนหนึ่ง
โดยเขียนเรียงความหัวข้อมีดังนี้
1.2.1 ชื่อวิชาและระดับชั้น
1.2.2 ชื่อหน่วย
เรื่องที่จะสอนและเวลาสอนที่เป็นคาบ
1.2.3 ชื่อหัวเรื่อง
1.2.4
ความคิดรวบยอด
1.2.5
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
ส่วนที่เข้าตารางมีดังนี้
1.2.6
เนื้อหา
1.2.7
กิจกรรมการเรียนการสอน
1.2.8 สื่อการเรียนการสอน
1.2.9
ประเมินผล
1.2.10 หมายเหตุ
การเขียนแผนการสอนแบบกึ่งตารางมีข้อดีที่กำหนดขั้นตอนการสอนตามเนื้อหากำหนดกิจกรรมการเรียนการสอน
สื่อการเรียนการสอนประเมินผลอย่างละเอียด
ทำให้ผู้สอนที่นำแผนการสอนไปใช้สามารถทำแผนการสอนได้โดยสะดวก ส่วนข้อจำกัด
คือแผนการสอนแบบกึ่งหัวข้อกึ่งตารางนี้ จะยากกว่าแบบเรียงหัวข้อ
เพราะจะต้องตีตารางมีการกรอกข้อความลงในตารางที่จะต้องมีความชัดเจน
และสัมพันธ์กันโดยตลอด
ตัวอย่างแผนการสอนแบบกึ่งหัวข้อกึ่งตาราง
แผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระ.............................
ชั้น.......................................
หน่วยที่.........................................เรื่อง...............................................เวลา................................
คาบ/ชั่วโมง
หัวเรื่อง..........................................................................................................................................................
ความคิดรวบยอด........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
|
เนื้อหา/สาระการเรียนรู้
|
กิจกรรมการเรียนการสอน
|
สื่อการเรียนการสอน
|
ประเมินผล
|
หมายเหตุ
|
1.3 แบบกรมวิชาการ
นำเสนอไว้เป็นตัวอย่างในการเขียนแผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งสถานศึกษาแต่ละแห่งนำไปดำเนินการปรับใช้ได้ตมความเหมาะสม
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่ม................................................
ชั้น........................................
ภาคเรียนที่.......................
ชื่อแผน.........................................................................................
เวลา.........................ชั่วโมง
1.จุดประสงค์
1.1………………………………………………………………………………………...............
1.2…………………………………………………………………………………………...........
1.3………………………………………………………………………………………...............
2. สาระการเรียนรู้
2.1…………………………………………………………………………………………...........
2.2…………………………………………………………………………………….........……..
2.3…………………………………………………………………………………….........……..
3. กระบวนการการเรียนรู้
3.1……………………………………………………………………………………….........…..
3.2……………………………………………………………………………………….........…..
3.3………………………………………………………………………………………........…..
4. กระบวนการวัดและประเมินผล
4.1…………………………………………………………………………………………..........
4.2…………………………………………………………………………………………...........
4.3……………………………………………………………………………………….........…..
5. แหล่งการเรียนรู้
5.1…………………………………………………………………………………………...........
5.2…………………………………………………………………………………………...........
5.3…………………………………………………………………………………………...........
6. บันทึกหลังการสอน
…………………………………………………………………………………………………….........…..
………………………………………………………………………………………………………...........
………………………………………………………………………………………………………...........
|
2. รูปแบบของแผนการสอนตามลักษณะของการใช้ การสอนในระดับต่างๆ ได้แก่
อนุบาลช่วงชั้นที่ 1-2 ชั้นประถมศึกษาช่วงชั้นที่ 3-4 ชั้นมัธยมศึกษาและอุดมศึกษานั้นย่อมมีรูปแบบของแผนการสอนที่แตกต่างกันเพื่อความเหมาะสมและสะดวกในการใช้ในแต่ละระดับชั้นซึ่งพอสรุปรูปแบบของแผนการสอนที่เหมาะสมกับระดับชั้นได้ดังนี้
2.1 ระดับอนุบาลและช่วงชั้นที่ 1-2 ชั้นประถมศึกษา
นิยมใช้แผนการสอนแบบกึงตารางเพราะทำให้ผู้สอนสามารถกำหนดกิจกรรมการเรียนของผู้เรียนที่สัมพันธ์กับจุดประสงค์
สื่อการสอนและการประเมินผลได้ชัดเจน
2.2 ระดับช่วงชั้นที่ 3-4
ชั้นมัธยมศึกษานิยมใช้แบบกึ่งตารางในระดับมัธยมตอนต้น (ม. 1- ม.3 )ส่วนช่วงชั้นที่
4 ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย(ม.4-ม.6 )นิยมใช้แผนการสอนแบบเรียงหัวข้อ
2.3 ระดับอุดมศึกษา
นิยมใช้แผนการสอนแบบเรียงหัวข้อสอบกะทัดรัดและผู้สอนสามารถเขียนแผนการสอนได้โดยใช้เวลาไม่มากนัก
ขั้นตอนในการเขียนแผนการสอน
ขั้นตอนในการเขียนแผนการสอน
ก่อนจะลงมือเขียนแผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้
ผู้สอนควรได้ศึกษารายละเอียดตามขั้นตอนในการเขียนแผนการสอนตามหัวข้อต่างๆ
โดยศึกษาจากกำหนดการสอนและตารางสอนว่าเรื่องที่จะสอนนั้นเป็นเรื่องอะไร
ใช้เวลากี่คาบ แล้วศึกษาแผนการสอนแม่บทของกรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ
และคู่มือครูโดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ศึกษาแผนการสอนแม่บท และปรับแผนการสอนเนื้อหาโดยแบ่งหัวข้อของเนื้อหาโดยย่อยลงไปในการแบ่งหัวข้อของเนื้อหาจะแบ่งย่อยพอที่จะสอนในแต่ละครั้ง
ซึ่งเวลาที่จะสอนในแต่ละครั้งจะไม่เท่ากันแล้วแต่เนื้อหาในการจัดตารางสอนของแต่ละโรงเรียน
2. ศึกษาความคิดรวบยอดทั้งหมดของแม่บทนั้นลืมเรื่องนั้นให้เข้าใจ
3. ศึกษาจุดประสงค์มาตรฐานการเรียนรู้ทั้งหลายของสาระนั้น
เพื่อทำความเข้าใจว่าสอนแบบนี้แล้วผู้เรียนทำอะไรบ้าง
ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปอย่างไรบ้าง
ซึ่งจะเป็นแนวทางในการทดสอบการเรียนรู้ของผู้เรียน
4. ศึกษาเนื้อหาและรายละเอียดว่ามีอะไรบ้าง
สอนความคิดรวบยอดและจุดประสงค์ที่กำหนดได้หรือไม่ เนื้อหาแต่ละเรื่องสอดคล้องกับสาระในจุดประสงค์ข้อใด
และความคิดรวบยอดข้อใด
5.
ศึกษากิจกรรมการเรียนทั้งหมดตรวจสอบดูว่ากิจกรรมทั้งหมดแต่ละเรื่องตรงตามเนื้อหาหรือไม่
จะต้องหามาได้โดยวิธีใด อย่างไร และถ้าทำเองจะทันเวลาหรือไม่
6. ศึกษาการวัดผลและประเมินผลแต่ละครั้งที่สอนเมื่อใช้วิธีอย่างไร
วิธีเหล่านั้นเหมาะสมกับการวัดเนื้อหาและกิจกรรมที่กล่าวไว้หรือไม่
การเขียนแผนการสอน
จากองค์ประกอบของแผนการสอน
รูปแบบของแผนการสอนและขั้นตอนในการเขียนแผนการสอน
เราสามารถนำมาเขียนเป็นแผนการสอนระดับชั้นต่างๆ หรือตามความต้องการและความละเอียดในการใช้ได้ตามหัวข้อต่างๆดังนี้
1. ชื่อกลุ่มสาระช่วงชั้นและระดับชั้น
เมื่อกำหนดที่จะทำแผนการสอนของกลุ่มสาระหรือเนื้อหาใด ควรเขียนให้ละเอียดเช่น
กลุ่มสาระภาษาไทย ช่วงชั้นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่องการเขียนเรียงความ
เป็นต้น
2. ชื่อหน่วย หัวเรื่อง เวลาและวันที่เมื่อกำหนดกลุ่มสาระหรือเรื่องที่จะสอนแล้ว
ให้ดูในแผนการจัดการเรียนรู้ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้ศึกษาหน่วยที่เท่าไร
เช่นหน่วยที่ 2 ชีวิตในบ้านเรื่องหน้าที่และความรับผิดชอบของสมาชิกในครอบครัว เวลา
17 คาบ วันที่ 7 สิงหาคม 2549 เป็นต้น
3. มโนทัศน์หรือความคิดรวบยอด ซึ่งหมายถึง
สาระสำคัญข้อสรุปหรือความคิดครั้งสุดท้ายที่เกิดกับผู้เรียนในลักษณะที่สั้นที่สุด
ความคิดนี้จะเกิดขึ้นหลังจากผู้เรียนได้รับประสบการณ์และเกิดการเรียนรู้เรื่องนั้นแล้ว
มโนทัศน์หรือความคิดรวบยอดของ นี้จะเป็นทักษะที่เก่งแท้ของเนื้อหาวิชาความคิดรวบยอดของแต่ละคนที่เกี่ยวกับสิ่งเดียวกันอาจไม่เหมือนกัน
เพราะประสบการณ์ต่างๆการและความคิดรวบยอดนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หากผู้เรียนได้รับประสบการณ์ใหม่ที่ต่างจากเดิม
แต่เมื่อผู้เรียนเกิดการเรียนรู้แล้วผู้เรียนจะต้องสรุปลักษณะเด่นหรือลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้นเมื่อพบสิ่งไหนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับหรือเหมือนกับสิ่งที่เคยพบมาก่อนต้องสามารถบอกได้ว่า
สิ่งนั้นเป็นสิ่งเดียวกันหรือเป็นสิ่งใหม่ ตัวอย่างความคิดรวบยอดหรือมโนทัศน์ เช่น
เรื่องหน้าที่และคงามรับผิดชอบของสมาชิกในครอบครัว มีความคิดรวบยอดว่า การที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดี
ครอบครัวย่อมมีความสุข เป็นต้น บางแผนการสอนในระดับชั้นอุดมศึกษา
หัวข้อนี้อาจใช้คำว่า สาระสำคัญหรือแนวคิดก็ได้
4. คุณสมบัติที่ต้องการเน้น โดยทั่วไป
แผนการสอนเดิมจะไม่มีการเขียนไว้ อต่ดารเรียนการสอนในปัจจุบันจะเน้นให้มีการฝึกให้ผู้เรียนมีคุณสมบัติที่ดีใยด้านต่างๆ
โดยในการสอนแต่ละครั้ง ผู้สอนตวรพิจารณากิจกรรมดารเรียนการสอน
ที่สอนในแต่ละครั้งว่าสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และคุณธรรม 30 ข้อ
ในจริยศึกษาข้อใดบ้างที่มีคุณสมบัติที่ต้องการเน้นผู้เรียนทำงานร่วมกัน
คุณสมบัติที่ต้องการเน้นก็อาจจะได้แก่ ความรับผิดชอบ ความสามัคคี ความมีเหตุผล
เป็นต้น ในส่วนของคุณสมบัติที่ต้องการเน้นตามมาตรฐานการเรียนรู้นี้
ในแผนการสอนอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้
5. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เป็นจุดประสงค์ที่สังเกตและวัดได้เมื่อผู้เรียนศึกษาหรือเรียนเรื่องวันนั้นแล้วเกิดการเรียนรู้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ในปัจจุบันตามแผนการจัดการเรียนรู้นิยมเขียนจุดประสงค์ในแผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้เป็น
2 ประเภท คือ
5.1 จุดประสงค์ทั่วไป หรือในแผนการสอนใช้คำว่าจุดประสงค์ปลายทาง
ซึ่งหมายถึงการกำหนดจุดประสงค์การเรียนการสอนที่ต้องการให้เกิดขึ้น
เมื่อการเรียนการสอนเรื่องนั้นๆ จบสิ้นลง เช่น
ให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอากาศและประโยชน์ของอากาศต่อสิ่งมีชีวิตได้เป็นต้น
5.2 จุดประสงค์เฉพาะในแผนการสอนใช้คำว่า
จุดประสงค์นำทาง ซึ่งหมายถึง
การกำหนดจุดประสงค์การเรียนการสอนในรูปแบบของพฤติกรรมที่ต้องการให้เกิดขึ้น
หลังจากผู้เรียนได้ศึกษาเนื้อหาในบทนี้แล้ว ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สังเกตและวัดได้
เช่น เมื่อผู้เรียนศึกษาอากาศและส่วนประกอบของอากาศจบแล้ว
ผู้เรียนสามารถบอกความหมายของอากาศและบรรยากาศได้อธิบายส่วนประกอบของอากาศได้
ระบุประโยชน์ของอากาศที่มีต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกได้ เป็นต้น
6. เนื้อหา
ในปัจจุบันอาจใช้สาระการเรียนรู้เป็นเนื้อหาสาระของบทเรียนเร็วระดับชั้นต่างๆที่กำหนดไว้ในหลักสูตรของระดับชั้นนั้นๆ
เนื้อหาที่กำหนดไว้ในจะเป็นเพียงหัวข้อเรื่องหรือเค้าโครงเรื่องสั้นๆเท่านั้น
ผู้สอนจำเป็นต้องนำหัวข้อหรือเค้าโครงเหล่านั้นมาขยาย ศึกษาและหารายละเอียด
เพิ่มเติมจากเอกสารต่างๆเขียนบันทึกขยายความในแผนการสอนให้ชัดเจนว่าต้องสอนอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานั้นมีขอบเขตของเนื้อหากว้างขวางลึกซึ้งเพียงใด
7. กิจกรรมการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ในปัจจุบันนิยมยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ฉะนั้นผู้สอนควรพิจารณากิจกรรมการเรียนการสอนให้เหมาะสมเพื่อนำไปใช้ในการเรียนการสอนให้บรรลุตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้
ผู้เรียนจะได้พัฒนาศักยภาพของตนเองในขณะทีเรียนได้อย่างเต็มที่
มีการพัฒนาทั้งด้านร่างการ สังคม อารมณ์ และสติปัญญา
กิจกรรมการเรียนการสอนโดยทั่วไปในแผนการจัดการเรียนรู้มักแบ่งออกเป็น 4 ขั้น
ได้แก่ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน ขั้นสรุป และขั้นวัดผล
สำหรับขั้นวัดผลนี้อาจอยู่ในส่วนองการประเมินก็ได้
8.
แหล่งการเรียนรู้/สื่อการเรียนการสอน หมายถึง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้สอนใช้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน
ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ อุปกรณ์เครื่องมือ หรือวิธีการต่างๆ
ล้วนแล้วแต่เป็นสื่อการเรียนการสอนทั้งสิ้น
ซึ่งสื่อการเรียนการสอนนั้นจะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจอยากศึกษา
อยากเรียน อยากรู้
และในบางครั้งช่วยเร้าความสนใจให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการศึกษาค้นคว้าได้ด้วยตนเอง
ผู้สอนควรมีทักษะในการเลือกใช้ การใช้
การทำนุบำรุงรักษาตลอดจนการประดิษฐ์สื่อการเรียนการสอนขึ้นใช้เองหรือแสวงหาจากท้องถิ่นของตนโดยคำนึงถึงการประหยัดทั้งทุนทรัพย์และเวลาเป็นสิ่งสำคัญ
9. การประเมินผล
การประเมินผลนี้เป็นผลต่อเนื่องจากการวัดผลในกระบวนการเรียนการสอน
ผู้สอนนำผลจากการวัดด้วยวิธีการต่างๆเช่นการตอบคำถาม
การเข้าร่วมกิจกรรมในระหว่างเรียน การสังเกตพฤติกรรมในการเรียนรู้ การทำแบบฝึกหัด
เป็นต้น มาประเมินผลโดยใช้หลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ผู้สอนสามารถทราบได้ว่า
ผู้เรียนได้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ของการเรียนการสอนที่กำหนดไว้หรือไม่มากน้อยเพียงใด
10. หมายเหตุ
ในแผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้ส่วนใหญ่จะเพิ่มส่วนของหมายเหตุไว้ในตอนท้าย
องค์ประกอบของแผนการสอนในส่วนต่างๆที่ระบุไว้แล้ว เช่น อาจบันทึกว่าผู้เรียน 5
คนไม่ได้เข้าชั้นเรียนเพราะต้องไปเป็นตัวแทนแห่เทียนพรรษา
หรือการสอนครั้งนี้เป็นครั้งแรกจึงเสียเวลาไป 20 นาที
เพื่อทักทายและการสร้างความคุ้นเคยกันระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ผู้เรียนกับผู้เรียน
และทำแบบทดสอบเป็นต้น
ประโยชน์ของการเขียนแผนการสอน
ประโยชน์ของการเขียนแผนการสอน
การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ทำให้เกิดประโยชน์แก่สอนและการจัดการเรียนรู้ดังนี้
1. ทำให้การสอนของผู้สอนมีเป้าหมายที่ชัดเจน
2. ผู้สอนได้เตรียมตัวก่อนที่จะไปสอน ทำให้รู้ล่วงหน้าและเตรียมการสอนได้ถูกต้องครอบคลุมเนื้อหา
ตลอดจนสามารถวางแนวทางแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในการสอนได้
3. ทำให้การจัดกิจกรรมการสอนดำเนินไปตามลำดับขั้นที่กำหนด
4. ทำให้ผู้สอนมีความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น
และสามารถปฏิบัติการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ช่วยให้ผู้สอนสามารถดำเนินงานในการเรียนการสอนได้ตรงตามหลักสูตร
สรุป
การวางแผนการสอนเป็นการเตรียมการสอนล่วงหน้า
เพื่อทำให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ
และผู้สอนมีความมั่นใจในการสอนเป็นอย่างดี
การวางแผนการสอนนี้ผู้สอนสามารถทำได้ทั้งการวางแผนการสอนระยะยาวและระยะสั้น
โดยศึกษาข้อมูลหรือรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกันล่วงหน้าจากการศึกษาตัวหลักสูตร
เอกสารหลักสูตรและการประเมิน หรืออื่นๆ โดยนำมาเขียนเป็นกำหนดการสอน
(การวางแผนการสอนระยะยาว)
ก่อนแล้วจึงขยายผลเป็นแผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้(การวางแผนระยะสั้น)
ในการเขียนแผนการสอนหรือแผนการจัดการเรียนรู้นั้นนิยมเขียนกันใน 2 รูปแบบ คือ
การเขียนแผนการสอนแบบเรียงหัวข้อและการเขียนแผนการสอนแบบกึ่งหัวข้อกึ่งตารางสรุป
อ้างอิง
ผศ.ดร.พิจิตรา ธงพานิช.วิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน.นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์, 2560.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น